ออมเงินได้ คุ้มครองชีวิต คุ้มครองโรคร้ายแรง และคืนทุนแน่นอน
เมื่อพูดถึง “การออมเงิน” คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงการฝากเงินในธนาคาร หรือลงทุนในกองทุนรวม แต่วันนี้เราขอแนะนำแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “การออมเงินแบบ 4 มิติ” ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่ไม่ใช่แค่เก็บออมได้ แต่ยังให้ความคุ้มครองชีวิต และสุขภาพอย่างครอบคลุม — นั่นคือ ประกันชีวิตโรคร้ายแรง AIA CI Procare
ดาวน์โหลดโบรชัวร์ ได้ที่ปุ่มด่านล่าง
การออมเงินแบบ 4 มิติ คืออะไร?
- มิติที่ 1: ออมเงิน
จ่ายเบี้ยประกันเหมือนเก็บเงินออมรายเดือน หรือรายปี โดยเงินที่จ่ายจะสะสมมูลค่าไปเรื่อย ๆ จนสามารถรับเงินคืนได้ในอนาคต - มิติที่ 2: คุ้มครองชีวิต
หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน AIA CI Procare ให้ความคุ้มครองชีวิตแก่ผู้เอาประกัน ช่วยดูแลครอบครัวและคนข้างหลัง - มิติที่ 3: คุ้มครองโรคร้ายแรง
ครอบคลุมการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงสูงสุดถึง 35 โรค เช่น มะเร็ง หัวใจ ไตวาย ฯลฯ รับเงินก้อนจาก AIA ทันทีเมื่อพบโรค ไม่ว่าจะเจอโรคร้ายระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง และระยะรุนแรง* ทำให้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายนอกโรงพยาบาล หรือรบกวนเงินเก็บในส่วนอื่นๆ - มิติที่ 4: จุดคุ้มทุนแน่นอน
เมื่อชำระเบี้ยครบสัญญาแล้ว (จ่ายครบ 20 ปี) คุณสามารถเลือกรับเงินคืน หรือปล่อยให้เงินสะสมโตต่อ ซึ่ง คุ้มค่าแน่นอนตั้งแต่วันที่ครบชำระ ไม่ต้องลุ้นเรื่องตลาดผันผวนแบบการลงทุนอื่น
ทำไมต้อง AIA CI Procare?
- เป็นแบบ “จ่ายครบ รับคืน” ไม่สูญเปล่า และเป็นเบี้ยคงที่ตลอดสัญญา
- ได้ทั้ง ความคุ้มครองชีวิต + สุขภาพ + ออมเงิน
- เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
- เบี้ยประกันสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
- เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงกับการลงทุนในหุ้น หรือกองทุน
ตัวอย่างง่ายๆ
เบี้ยคงที่ 104,110บาท/ปี ยื่นลดหย่อนภาษีได้ ในส่วนของประกันชีวิต
ทุนประกัน 1ล้านบาท คุ้มครองถึง 99ปี
ตารางมูลค่าเวนคืน (คอลัมน์ซ้ายสุด)
จ่ายเบี้ยครบสัญญา(20ปี) ก็คุ้มทุนแล้ว
สมมติว่า คุณออมปีละ 104,110 บาท (เบี้ยคงที่) ด้วย AIA CI Procare นาน 20 ปี รวมเป็นเงิน 2,082,200 บาท
เมื่อครบกำหนดสัญญา
- มูลค่าเวนคืนในปีที่ 20 จะมากกว่าจำนวณเบี้ยรวมที่จ่ายไป พอถึงวัยที่ชีวิตไม่ค่อยเสี่ยงแล้วก็เลือกได้ว่าจะเอาเวนคืน ออกมาใช้ หรือจะถือกรมธรรม์ต่อไป เผื่อเจอโรคร้ายที่ไม่คาดฝัน
- ถ้าเจ็บป่วยโรคร้ายระหว่างสัญญา ก็มีเงินก้อนเอาใว้ใช้จ่าย แต่ตัวสัญญากับยังคงอยู่ และจะได้รับเงินก้อนอีก หากกลับมาเป็นโรคร้ายซ้ำอีกรอบ*
- หากเจอโรคร้ายระดับรุนแรง ก่อนชำระเบี้ยครบสัญญา 20ปี สามารถหยุดจ่ายเบี้ยปีที่เหลือได้เลย เพราะ AIA จะยกเว้นเบี้ยส่วนที่เหลือให้ และได้รับความคุ้มครองเหมือนเดิม
- ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็มีเงินส่งต่อ เป็นมรดกให้ครอบครัว
สรุป
AIA CI Procare ไม่ใช่แค่ประกันชีวิตธรรมดา แต่คือ “การออมเงินแบบมีแผน” ที่มองอนาคต 4 มิติ — ออมได้ คุ้มครองได้ คลายกังวลโรคร้ายแรง และไม่เสียเปล่าเพราะมีจุดคุ้มทุนแน่นอน
หากคุณกำลังมองหาวิธีออมเงินที่ให้มากกว่าแค่ “ดอกเบี้ย” ลองพิจารณา AIA CI Procare เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งวันนี้และอนาคต
ทั้งนี้ ในกรณีที่เราต้องนอนโรงพยาบาลจริงๆ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล ก็ยังจำเป็นต้องหามาจ่ายอีกอยู่ดี ผมจึงแนะนำว่า ประกันสุขภาพก็ยังจำเป็นและควรจะมีไว้ควบคู่กันไปด้วย แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่า ไม่ค่อยได้นอนโรงพยาบาล ซื้อไว้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ ผมแนะนำเลยครับ แบบประกันสุขภาพ Long Term Healthcare ประกันสุขภาพ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ค่อยได้เคลม แต่ก็ยังรู้สึกอุ่นใจ ที่ได้ถือเอาไว้ ซึ่งเป็นแผนที่เราจ่ายเบี้ยวันนี้ เพื่อเอาไว้ใช้ ในวันที่เราหยุดจ่ายเบี้ยได้
หากคุณสนใจวางแผน ออมเงินแบบ 4มิติ สามารถติดต่อ ธนริศย์ ที่ปรึกษาการเงินและตัวแทนประกัน เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำแนะนำได้เลยครับ
*กดดูหมายเหตุ
1ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต หรือผลประโยชน์ ณ วันครบกำหนดสัญญา บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ดังต่อไปนี้ แล้วแต่จำนวนในข้อใดข้อหนึ่งจะมากกว่า 1) 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือ 2) เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์* หรือ 3) จำนวนเบี้ยประกันภัยหลักที่บริษัทได้รับชำระมาแล้วทั้งหมด หักด้วยผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรง และหรือผลประโยชน์ภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต และหรือผลประโยชน์การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรงที่บริษัทได้จ่ายไปแล้ว (ถ้ามี)
²โบนัสสุขภาพ คำนวณจากสถานะของผู้เอาประกันภัยในโครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้โดยจะคำนวณให้ตามอัตราโบนัสสุขภาพของเบี้ยประกันภัยมาตรฐาน ซึ่งบริษัทจะจ่ายผลรวมของโบนัสสุขภาพทุกช่วง 3 ปีกรมธรรม์ หรืออาจน้อยกว่า 3 ปีกรมธรรม์ในกรณีที่มีการจ่ายผลประโยชน์ของแบบประกันภัยหลักนั้นๆ หรือกรณีที่ครบกำหนดการชำระเบี้ยประกันภัย จนถึงวันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยงวดสุดท้าย ทั้งนี้ ในขณะที่ AIA CI ProCare และบันทึกสลักหลังเกี่ยวกับผลประโยชน์โครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่เคยได้รับผลประโยชน์ภายใต้เงื่อนไขของ AIA CI ProCare มาก่อน ผู้เอาประกันภัยจึงจะได้รับผลประโยชน์โบนัสสุขภาพตามเงื่อนไขการจ่ายโบนัสสุขภาพ และผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันที่สมัคร AIA CI ProCare ทั้งนี้ อัตราโบนัสสุขภาพของสถานะซิลเวอร์ โกลด์ และแพลทตินัม เท่ากับ 1, 4 และ 9 ตามลำดับ
³เมื่อได้รับการวินิจฉัยและหรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรง หรือเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บที่ส่งผลให้เกิดภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต (MIB) และหรือเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้ผลประโยชน์การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง (CCB)
⁴จ่ายผลประโยชน์ 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง รวมสูงสุด 5 ครั้ง รวมสูงสุด 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และจ่ายผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับรุนแรง รวมสูงสุด 6 ครั้ง รวมสูงสุด 600% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
⁵MIB : Major Impact Benefit คุ้มครองการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วยในวิกฤต (ICU) ของโรงพยาบาล เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 วันติดต่อกัน อันเนื่องมาจากสาเหตุหรือการรักษาการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 1) การผ่าตัดใหญ่ 2) การใช้เครื่องช่วยหายใจแบบสอดท่อหรือเจาะคอ 3) ภาวะล้มเหลวของอวัยวะที่สำคัญ ได้แก่ หัวใจ ปอด ตับ ไต หรือ ตับอ่อน
⁶CCB : Continuing Care Benefit คุ้มครอง 8 โรคที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป ได้แก่ โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์, โรคพาร์กินสัน, โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว, โรคกล้ามเนื้อเสื่อม, ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง, การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง, การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ และการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
⁷รับผลประโยชน์ที่จ่ายครั้งเดียว 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และ ผลประโยชน์ที่จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 1.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ติดต่อกันรวมทั้งหมด 60 เดือน รวม 90% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย รวมเป็นผลประโยชน์ทั้งหมด 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
**เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ คือ มูลค่ากรมธรรม์หลังหักผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรง และหรือผลประโยชน์ภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต (MIB) และหรือผลประโยชน์การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง (CCB) ที่บริษัทได้จ่ายไปแล้ว (ถ้ามี)
