ถ้ายังมีคำถามในใจ

ผมรวมคำถามที่โดนถามบ่อยๆ เกี่ยวกับการซื้อบ้านผ่อนตรงกับ Juzmatch มาให้แล้ว ลองอ่านกันดูนะครับ

ถ้าจะทำผ่อนตรงกับ Juzmatch ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ใช้แค่ 2 อย่างเท่านั้นเองครับ

  1. บัตรประชาชน
  2. ทะเบียนบ้าน

กรณีลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะลูกค้าสามารถ ถ่ายเป็นรูปภาพ ส่งมาให้ทางเอเจ้นท์ได้เลยครับ

ผ่อนตรงกับโครงการไหนได้บ้าง? มีให้เลือกมั้ย? ขอดูบ้านหน่อยได้มั้ย?

ผ่อนตรงกับโครงการไหนได้บ้าง?

ตอบ : โครงการไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่การผ่อนกับโครงการนะครับ จะเป็นการผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch

การทำผ่อนตรงของเรา “จะไม่ใช่การผ่อนตรงกับโครงการ” แต่จะเป็นการ “ผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch” โดยที่บริษัทจะไปซื้อบ้านที่ลูกค้าต้องการ แล้วเอามาทำผ่อนตรงกับลูกค้าอีกที ซึ่งข้อดีก็คือว่า ลูกค้าสามารถเลือกบ้านใหม่ในโครงการไหนก็ได้ มาทำผ่อนตรงหรือเช่าเพื่อซื้อกับบริษัทครับ

มีให้เลือกมั้ย? ขอดูบ้านหน่อยได้มั้ย?

ตอบ : จากที่แจ้งข้างต้น ทำให้ลูกค้าสามารถไปที่โครงการที่ลูกค้าชอบ โครงการไหนก็ได้ เลือกบ้านกับเซลล์ของโครงการ ขอใบเสนอราคา แล้วแจ้งกับเซลล์ได้เลยว่าจะทำผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch และหลังจากได้ใบเสนอราคามา ก็ส่งมาให้ผมคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการทำบ้านผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch ได้เลยครับ

จังหวัดไหนทำผ่อนตรงกับ JUZMATCH ได้บ้าง

ทำได้ 19 จังหวัด ตามรูปด้านล่างนี้เลยครับ

ค่าทำสัญญากี่บาท? แล้วค่าทำสัญญาเอาไปหักกับราคาบ้านมั้ย?

ค่าทำสัญญาขึ้นอยู่กับราคาบ้านเลยครับ โดยบริษัทจะระบุเป็น % ของราคาบ้านเอาไว้ โดยจะมีค่าทำสัญญาเริ่มต้นที่ 10% ครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกดูที่นี่ 👉 “เงื่อนไขการทำผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch”

และค่าทำสัญญานี้ “ไม่ได้เอาไปหักกับราคาบ้านครับ”

ค่าทำสัญญา สามารถแบ่งจ่ายได้มั้ย? แบ่งชำระได้กี่งวด?

สามารถแบ่งจ่ายได้ 2งวดครับ (แบ่งจ่ายเป็น 50%-50%) และต้องชำระภายใน 30วัน หลังจากชำระงวดแรกแล้ว และบริษัทจะเริ่มดำเนินการหานักลงทุนหลังลูกค้าจ่ายครบทั้งหมดแล้วเท่านั้นนะครับ

ระยะเวลาดำเนินการจัดหาทรัพย์ของบริษัทจะอยู่ที่ 30-60 วันครับ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ยิ่งลูกค้าชำระค่าทำสัญญาเต็มจำนวนกับ Juzmatch ช้าเท่าไหร่ ปัญหามักจะเกิดจากฝั่งของคนขายมากกว่า อาจจะทำให้ลูกค้าโดนยึดเงินมัดจำ เพราะว่าผิดสัญญาในการโอนกรรมสิทธิที่ทางผู้ขายระบุไว้ครับ

เงินจอง หรือเงินมัดจำ ที่จ่ายให้กับโครงการ สามารถเอามาหักกับค่าทำสัญญาได้มั้ย?

สามารถทำได้แน่นอนครับ

โดยจะใช้เวลาดำเนินการ “หักเงินจองออกจากค่าทำสัญญา” ประมาณ 1-2วัน (ไม่นับวันหยุด) เพียงแค่ลูกค้าส่งสลิปการจองกับโครงการ มาให้กับเอเจ้นท์ธนริศย์ และลูกค้าทำการจองทรัพย์ในระบบ กับทางบริษัท Juzmatch เป็นเงิน 10,000 บาทแล้วเท่านั้นนะครับ

จ่ายค่าทำสัญญาไปแล้ว รอนานมั้ยกว่าจะได้บ้าน?

บริษัทจะใช้เวลาดำเนินการ 30-60 วันครับ บางเคสอาจจะใช้เวลาไม่ถึงเดือน บางเคสอาจใช้เวลามากกว่า 2เดือนก็มี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของนักลงทุนที่มีในช่วงนั้นนะครับ (นักลงทุนที่มี ก็จะถูกแบ่งออกตามไซส์-ราคาบ้านครับ)

ดังนั้น ถ้าลูกค้าเลือกบ้านใหม่ในโครงการมาทำผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch จะไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องระยะเวลาดำเนินการมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นบ้านมือสองนั้น บางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องที่เจ้าของบ้านไม่สามารถรอได้ หรือบางกรณี เจ้าของของบ้านฝากนายหน้าหลายคนให้ช่วยขาย อาจจะทำให้เจ้าของบ้านตัดสินใจขายให้กับนายหน้าอีกคน ในระหว่างที่เรารอดำเนินการหานักลงทุนจากบริษัทอยู่ก็ได้

ทำไมต้องรอ 30-60วัน? เข้าอยู่บ้านทันทีเลยไม่ได้เหรอ? ถ้าครบ 60 วันไม่ได้บ้านจะทำยังไง?

ทำไมต้องรอ 30-60วัน? เข้าอยู่บ้านทันทีเลยไม่ได้เหรอ?
ตอบ : ที่ต้องรอ 30-60 วัน และยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ก็เพราะว่า หลังจากที่บริษัทได้รับค่าทำสัญญาครบแล้ว ถึงจะเริ่มเสนอบ้านให้กับนักลงทุน เพื่อตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้น จากนั้น นักลงทุนก็จะยื่นกู้กับทางธนาคาร (กรณีนักลงทุนด้วยเครดิต) ซึ่งในขั้นตอนนี้จะกินเวลา 2-4สัปดาห์ แต่ถ้าหากสินเชื่อไม่ผ่าน ก็จะเสนอให้กับนักลงทุนท่านต่อไป (ถ้าเป็นนักลงทุนด้วยเงินสด ก็จะจบเคสได้เร็วกว่า)

ถ้าครบ 60 วันไม่ได้บ้านจะทำยังไง?
ตอบ : Buyer มีสิทธิขอเงินค่าทำสัญญาคืนได้ทั้งหมด หรือเลือกที่รอต่อไป ขยายสัญญาเพื่อให้บริษัทหานักลงทุนต่อไป

อยู่ต่างประเทศทำผ่อนตรงกับ Juzmatch ได้มั้ย?

ทำได้แน่นอนครับ! แถมง่ายอีกด้วย

บอกก่อนว่า 40%ของลูกค้าผ่อนตรง ทำงานอยู่ต่างประเทศ… ต้องการซื้อบ้านก่อนกลับไทย และแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะติดปัญหาเรื่องเอกสารยื่นกู้แบงค์… ผ่อนตรงกับ Juzmatch จึงตอบโจทย์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้

“อยู่ต่างประเทศ อยากทำผ่อนตรง จะต้องเริ่มยังไงดีหล่ะ?”

เพียงแค่ลูกค้าเลือกบ้าน เลือกแปลงกับเซลล์ แล้วขอใบเสนอราคามา… ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะให้ญาติพี่น้องที่ไทยเข้าไปดูบ้านจริง หรือจะใช้วิธี วิดิโอคอลกับเซลล์ เพื่อดูบ้านจริงก็ได้ครับ และพอได้ใบเสนอราคามาแล้ว ทางเราจะคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้ก่อน ถ้าลูกค้าโอเคกับค่าใช้จ่ายที่เอเจ้นท์คำนวณให้ ถึงจะเอาข้อมูลบ้านหลังนั้นเข้าไปในระบบของทางเวปไซต์บริษัท Juzmatch เพื่อขอค่าใช้จ่ายจากทางบริษัทอีกที

หลังจากที่บ้านอยู่ในระบบแล้ว ลูกค้าก็สามารถวางเงินจองกับทางโครงการได้เลยครับ…(เงินก้อนนี้ ลูกค้าสามารถให้ทางเราทำเรื่องหักจาก ค่าทำสัญญาของ Juzmatch ได้นะครับ) จากนั้นก็ทำการจองกับ Juzmatch 10,000 บาทก่อน (รอ 1วันเพื่อทำเรื่องหักเงินจอง) แล้วจึงชำระค่าทำสัญญาส่วนที่เหลือครับ

หลังจากชำระค่าทำสัญญาแล้ว ลูกค้าก็แค่รอเข้าอยู่บ้าน… เท่านั้นเองครับ… และเอกสารที่ใช้ก็จะมีแค่ บัตรประชาชน และทำเบียนบ้าน โดยสามารถถ่ายรูป แล้วส่งมาให้ทางเอเจ้นท์ก็ได้ครับ

จะสังเกตุได้ว่า ทั้งหมดที่เล่ามา ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาไทยเลย ไม่ต้องใช้เอกสารให้วุ่นวาย ใช้แค่โทรศัพท์ เปิดแอปที่ใช้อยู่ทุกวัน จะพิมพ์ จะโทรคุย หรือจะวิดิโอคอลก็ได้…และที่สำคัญคือ ลูกค้าทำเรื่องทั้งหมด ผ่านเวปไซต์ของบริษัท แม้กระทั่งการชำระเงิน ก็ต้องเข้าไปที่แอคเค้าท์ Buyer ที่ลูกค้าสมัคร เพื่อรับ QR Code ชำระเงินครับ

ตอนนี้ยังกู้ไม่ผ่าน แล้วภายใน 3ปี จะกู้ผ่านได้ยังไง?

ต้องเกริ่นก่อนว่า บริษัท Juzmatch จะมีทีมงานกู้ออก ติดต่อไปหาลูกค้า หลังจาก 30วัน แรกที่ลูกค้าเข้าไปอยู่บ้านครับ โดยทีมนี้ จะเป็นอดีตพนักงานธนาคารที่มีประสบการณ์ ไม่ต่ำกว่า 10ปี (มีครบเกือบทุกแบงค์)

ทีมนี้จะเข้ามาสอบถามลูกค้า เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนที่เคยยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร และจะช่วยวางแผนเพื่อแก้ไขให้เครดิตเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด จะมีการอัพเดทแผนทุกเดือน ลูกค้าจะคุยกับทีมนี้ จนสนิทกันเลยครับ (บางเคสสนิทกัน จนลูกค้าชวนไปร่วมงานแต่งงานของลูกค้าเลยก็มีครับ)

โดยที่ทีมนี้จะอยู่กับลูกค้า ไปตลอดสัญญา 3ปี ที่มีกับทางบริษัท Juzmatch และที่สำคัญ ทีมนี้ ให้คำปรึกษาฟรีด้วยนะครับ

ภายใน 3ปี ที่ทำผ่อนตรงกับบริษัทนั้น ทางผมเอง อาจจะไม่สามารถการันตีกับลูกค้าได้ว่า จะกู้ผ่านได้มั้ย แต่ที่ผมมั่นใจได้อย่างนึงว่า ลูกค้าจะมีทีมงานมืออาชีพที่สุดทีมนึง ที่คอยให้คำปรึกษา และช่วยปรับปรุงเครดิตให้กับลูกค้าครับ

และทีมนี้ จะช่วยให้ลูกค้า กลับมามีความมั่นใจในตัวเอง ได้อีกครั้งแน่นอนครับ

ปล. แต่ถึงกู้ไม่ผ่านใน 3ปี ก็ยังสามารถต่อสัญญากับทางบริษัทได้ครับ

สามารถเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านได้มั้ย?

ลูกค้าสามารถเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านได้หลังจากเข้าอยู่บ้านครบ 60วันแล้ว โดยจะแบ่งเป็น 2กรณี

  1. ลูกค้าเป็นผู้อาศัย กรณีที่ นักลงทุนเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
  2. ลูกค้าเป็นเจ้าบ้าน ในกรณีที่ นักลงทุนไม่ได้เอาชื่อเข้าทะเบียนบ้าน

ทะเบียนบ้านตัวจริงจะถูกเก็บไว้ที่บริษัทนะครับ ลูกค้าต้องติดต่อ CS เพื่อทำเรื่องเบิกทะเบียนบ้านออกมา และหลังจากเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านแล้ว ให้ทำสำเนาไว้ ก่อนส่งตัวจริงกลับไปเก็บไว้ที่บริษัทตามเดิมนะครับ

เข้าไปอยู่บ้านแล้ว สามารถต่อเติมบ้านได้มั้ย?

ลูกค้าสามารถทำเรื่องต่อเติมได้ทันที เพียงแค่แจ้งกับทาง CS (customer service) ว่าจะทำการต่อเติมในส่วนไหนบ้าง และต้องอย่าลืมแจ้งไปทาง นิติฯของโครงการว่าจะทำการต่อเติมบ้าน และดำเนินการตามระเบียบที่นิติฯโครงการนั้นๆแจ้งได้เลย (บางโครงการอาจจะต้องใช้ ใบมอบอำนาจจากนักลงทุน สามารถแจ้งกับทาง CS ของบริษัท Juzmatch ได้เลย)

สัญญาครบ 3ปีแล้ว แต่ยังกู้ไม่ผ่านทำยังไง จะโดนไล่ออกจากบ้านรึเปล่า?

ถ้ายังกู้ไม่ผ่าน หรือไม่สามารถปิดสัญญาได้ ใน 3ปี ลูกค้าสามารถต่อสัญญากับบริษัทออกไปได้อีก (ต่อไปอีก 3ปี) โดยที่ค่างวด และดอกเบี้ย ที่จะทำในสัญญาฉบับใหม่ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทางบริษัท ณ เวลานั้น

โดยจะมี “ค่าต่อสัญญา 5%” ที่บวกเข้าไปในยอดบ้านที่เหลือ แล้วผ่อนต่อได้เลย (ไม่ต้องจ่าย “ค่าต่อสัญญา” เหมือน “ค่าทำสัญญา” ในตอนแรก)

ส่วนเรื่องไล่ออกจากบ้านที่ลูกค้ากังวล : ถ้าหากลูกค้ายังจ่ายค่างวดภายในเวลา (วันที่ 1-5 ของแต่ละเดือน) ไม่มีการค้างชำระติดต่อกันถึง 3-4เดือน บริษัทจะยังไม่ดำเนินการบอกเลิกสัญญา

ค่างวดแต่ละเดือนต้องชำระวันไหน? จ่ายล่าช้าได้มั้ย?

กำหนดชำระค่างวดภายในวันที่ 1-5 ของแต่ละเดือน หากมีการชำระล่าช้า บริษัทจะมีค่าปรับโดยคิดจากอัตราเทียบเท่าดอกเบี้ยที่แจ้งไว้เป็นรายวัน

วิธีการชำระค่างวด –> เข้าไปที่เวปไซต์ของบริษัท log in เข้าบัญชี Buyer ของลูกค้า (ขั้นตอนนี้ ลูกค้าจะเคยทำมาแล้ว ตั้งแต่ตอนชำระค่าทำสัญญา) แล้วชำระค่างวดในนั้นได้เลย ลูกค้ายังสามารถเช็คยอดคงเหลือแบบ Realtime จากในนั้นได้อีกด้วย

ผ่อนกับ Juzmatch เป็นแบบ “ลดต้นลดดอก” รึเปล่า? แล้วเราสามารถโปะปิดยอด หรือกู้ออกเอง ก่อนครบสัญญา 3ปี ได้มั้ย? จะมีค่าปรับรึเปล่า?

การผ่อนตรงกับบริษัท Juzmatch จะเป็นการผ่อนแบบ “ลดต้นลดดอก” ถ้าหากเดือนไหนลูกค้ามีเงินก้อน ก็สามารถชำระเกินจากยอดที่กำหนดได้เลย โดยยอดที่เกินจะนำไปหักกับราคาบ้านโดยตรง

ทำให้ลูกค้าสามารถโปะปิดบ้านได้ก่อนครบกำหนดสัญญา 3ปี โดยที่ลูกค้าไม่มีค่าปรับใดๆ จากทางบริษัทอีกด้วย หรือลูกค้าที่วางแผนกู้ออก “ก่อน” ครบสัญญา 3ปี ก็สามารถทำได้โดยไม่มีค่าปรับเช่นกัน ในทางกลับกัน บริษัทมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ลูกค้าสามารถกลับมามีเครดิตที่ดีได้อีกครั้งครับ

ถ้าครบ 60 วันแล้วยังไม่ได้บ้านหล่ะ ขอเงินค่าทำสัญญาคืนได้มั้ย?

ลูกค้าสามารถขอเงินคืนได้ เต็มจำนวนที่จ่ายไป ถ้าครบ 60 วันแล้วยังหานักลงทุนให้ไม่ได้ครับ (โดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุจะมาจากนักลงทุนที่เลือกมา ติดปัญหาหลังจากยื่นขอวงเงินกับทางธนาคารครับ) หรือลูกค้าเลือกที่จะรอต่อไปอีกซักนิด ให้บริษัทได้หานักลงทุนต่อไป หรือเลือกนักลงทุนรายใหม่ จากประสบการณ์ของเอเจ้นท์เอง จะใช้เวลาเพิ่มจากเดิมอีก ไม่เกิน 30วันครับ